1.มะเร็งเม็ดเลือดขาว
เป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่งของระบบเลือดที่เกิดจากากร
ที่เซลล์เม็ดเลือดขาวใน ไขกระดูกเติบโตผิดปกติ
ทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดขาวออกมามากในกระแสเลือด
ทำให้การทำงานของระบบเม็ดเลือดเสียไป อาจเป็นแบบเฉียบพลัน (Acute
leukemia) หรือเป็นแบบช้า ๆ ค่อย ๆ เป็น (Chronic leukemia)
โดยทั่วไป มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
จะมีอาการรุนแรงกว่าชนิดที่เกิดช้า ๆ หรือเรื้อรัง
สาเหตุ
ปัจจุบันยังไม่
ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ปัจจัยทางกรรมพันธุ์และการติดเชื้อไวรัส
การได้รับสารเคมีบางอย่าง เช่น ยาฆ่าแมลง และกัมมันตภาพรังสี สามารถทำให้
เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้
อาการ
|
1. เลือดจาง ซีด |
2. หน้ามืด เวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย |
3. เลือดออกง่ายบริเวณผิวหนัง เหงือก เป็นจ้ำตามตัว |
4. ต่อมน้ำเหลืองโต อาจพบก้อนในท้องเนื่องจาก ตับ ม้ามโต |
5. ระบบภูมิคุ้นกันของร่างกายผิดปกติ เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย มีไข้ | | |
การตรวจวินิจฉัย
|
1. จากประวัติการเจ็บป่วย |
2. การตรวจร่างกาย |
3. การตรวจทางพยาธิวิทยา |
การรักษา
โดยทั่วไปแล้วจะ
ใช้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดเป็นหลัก การปลูกถ่ายไขกระดูก และ รังสีรักษา
จะเป็นการรักษาเสริมเพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้นหรือหายขึ้นอยู่กับชนิดของ
มะเร็งเม็ดเลือดขาว การตอบสนองต่การรักษาด้วยเคมีบำบัด และอายุของผู้ป่วย
2.มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
เป็นมะเร็งที่เกิดจากเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซด์ มีการเพิ่ม
จำนวนและเจริญเติบโตผิดปกติ ทำให้ต่อมน้ำเหลืองโตเร็วมาก มักพบบริเวณ
ต่อมน้ำเหลือง ที่คอ รักแร้ และขาหนีบ ซึ่งหากไม่ได้
รับการรักษาแต่ต้นแล้ว มะเร็งจะกระจายไปสู่ระบบต่างๆ ของร่างกาย
และทำให้การทำงานของร่างกาย ล้มเหลวถึงแก่ชีวิตได้
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
|
1. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮ๊อดกิ้น (Hodgkin's Lymphoma) ส่วนมากพบ ในเด็กและวัยหนุ่มสาว |
2.
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนันฮ๊อดกิ้น (Non - Hodgkin's Lymphoma)
มักพบในผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีการติดเชื้อโรคเอดส์ และพบในคนไทยมากกว่า
ชนิดฮ๊อดกิ้น |
อาการ
|
1. ต่อมน้ำเหลืองโต หรือมีก้อนที่โตเร็วไม่เจ็บบริเวณคอ รักแร้ และขาหนีบ |
2. ปวดท้อง ท้องเสียเรื้อรัง |
3. แผลเรื้อรังที่กระพุ้งแก้ม โพรงจมูก |
4. ไข้สูงไม่ทราบสาเหตุ |
อาการดังกล่าวส่วนมากไม่พบแต่เฉพาะในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเท่านั้น อาจพบ ในมะเร็งระบบอื่นได้เช่นกัน |
การรักษา
|
1. การใช้ยาเคมีบำบัด |
2. การรักษาด้วยรังสี |
3. การผ่าตัด |
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองด้วย |
การตรวจวินิจฉัย
|
1. ตรวจร่างกาย |
2. เอ็กซเรย์ |
3. การตรวจทางพยาธิวิทยา |
ที่มา :
http://www.nci.go.th/knowledge/bloodw.htm
http://www.nci.go.th/knowledge/yellow.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น