วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โรคมะเร็ง...เลือด

1.มะเร็งเม็ดเลือดขาว

เป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่งของระบบเลือดที่เกิดจากากร ที่เซลล์เม็ดเลือดขาวใน ไขกระดูกเติบโตผิดปกติ ทำให้มีการสร้างเม็ดเลือดขาวออกมามากในกระแสเลือด ทำให้การทำงานของระบบเม็ดเลือดเสียไป อาจเป็นแบบเฉียบพลัน (Acute leukemia) หรือเป็นแบบช้า ๆ ค่อย ๆ เป็น (Chronic leukemia) โดยทั่วไป มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน จะมีอาการรุนแรงกว่าชนิดที่เกิดช้า ๆ หรือเรื้อรัง 

 

สาเหตุ

ปัจจุบันยังไม่ ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ปัจจัยทางกรรมพันธุ์และการติดเชื้อไวรัส การได้รับสารเคมีบางอย่าง เช่น ยาฆ่าแมลง และกัมมันตภาพรังสี สามารถทำให้ เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้


อาการ

1. เลือดจาง ซีด
2. หน้ามืด เวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย
3. เลือดออกง่ายบริเวณผิวหนัง เหงือก เป็นจ้ำตามตัว
4. ต่อมน้ำเหลืองโต อาจพบก้อนในท้องเนื่องจาก ตับ ม้ามโต
5. ระบบภูมิคุ้นกันของร่างกายผิดปกติ เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย มีไข้  

การตรวจวินิจฉัย

1. จากประวัติการเจ็บป่วย
2. การตรวจร่างกาย
3. การตรวจทางพยาธิวิทยา

การรักษา

โดยทั่วไปแล้วจะ ใช้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดเป็นหลัก การปลูกถ่ายไขกระดูก และ รังสีรักษา จะเป็นการรักษาเสริมเพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้นหรือหายขึ้นอยู่กับชนิดของ มะเร็งเม็ดเลือดขาว การตอบสนองต่การรักษาด้วยเคมีบำบัด และอายุของผู้ป่วย


2.มะเร็งต่อมน้ำเหลือง


มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นมะเร็งที่เกิดจากเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซด์ มีการเพิ่ม จำนวนและเจริญเติบโตผิดปกติ ทำให้ต่อมน้ำเหลืองโตเร็วมาก มักพบบริเวณ ต่อมน้ำเหลือง ที่คอ รักแร้ และขาหนีบ ซึ่งหากไม่ได้ รับการรักษาแต่ต้นแล้ว มะเร็งจะกระจายไปสู่ระบบต่างๆ ของร่างกาย และทำให้การทำงานของร่างกาย ล้มเหลวถึงแก่ชีวิตได้

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

1. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮ๊อดกิ้น (Hodgkin's Lymphoma) ส่วนมากพบ ในเด็กและวัยหนุ่มสาว
2. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนันฮ๊อดกิ้น (Non - Hodgkin's Lymphoma) มักพบในผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีการติดเชื้อโรคเอดส์ และพบในคนไทยมากกว่า ชนิดฮ๊อดกิ้น


อาการ

1. ต่อมน้ำเหลืองโต หรือมีก้อนที่โตเร็วไม่เจ็บบริเวณคอ รักแร้ และขาหนีบ
2. ปวดท้อง ท้องเสียเรื้อรัง
3. แผลเรื้อรังที่กระพุ้งแก้ม โพรงจมูก
4. ไข้สูงไม่ทราบสาเหตุ
อาการดังกล่าวส่วนมากไม่พบแต่เฉพาะในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเท่านั้น อาจพบ ในมะเร็งระบบอื่นได้เช่นกัน




การรักษา

1. การใช้ยาเคมีบำบัด
2. การรักษาด้วยรังสี
3. การผ่าตัด
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองด้วย

การตรวจวินิจฉัย

1. ตรวจร่างกาย
2. เอ็กซเรย์
3. การตรวจทางพยาธิวิทยา

 ที่มา :

http://www.nci.go.th/knowledge/bloodw.htm
http://www.nci.go.th/knowledge/yellow.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น